ลาออกจากชาวโซเชียล

By | June 22, 2012

NoSocialMedia-300x200

หลายคนแปลกใจที่ผมกลับมาเขียนบล็อก แต่อีกหลายคนก็คงแปลกใจที่ผมหายไปจาก Facebook , Google+ และ Socl แต่ยังเจอบ้างบน Twitter

บอกตามตรงผมทนเบื่อที่จะต้องอ่านข่าวไร้สาระ ปัญญาอ่อน รวมไปถึงคอมเม้นท์ดราม่าดัดจริตกันสุดๆ ของบรรดาชาวโซเชียล ไม่ไหวอีกต่อไป แม้แต่ Twitter ที่เป็นโซเชียลมีเดียช่องทางเดียวที่ผมยังเปิดอยู่ ก็เปิดแต่ List ของน้องๆ และลูกๆ เท่านั้น ถึงอย่างนั้น ลูกๆ ผมก็ยังรีทวิต ข่าวที่เห็นแล้วความดันขึ้นมาให้อ่านอีกจนได้ ตอนนี้ก็เลยปิดหน้าจอทิ้งไว้ ให้มันเตือนเฉพาะมีใคร mention เข้ามาเท่านั้น

การที่ผมต้องเริ่มถอยห่างจากโซเชียลมีเดียออกมา ในขณะที่คนส่วนใหญ่แทบจะฝังร่างลงไปในมัน เพราะเริ่มรู้สึกว่าอะไรต่ออะไรมันชักจะเยอะเกินไปเสียแล้ว หลายเรื่องที่ไม่ได้มีความสลักสำคัญอะไร ก็กลายเป็นเรื่องจะเอาเป็นเอาตายกันให้ได้ การแสดงความคิดเห็นต่างๆ ก็ดูจะออกแนวนิยายน้ำเน่า แนวอวดตัว และแนวขอกูเด่น มากกว่าที่จะเป็นการแสดงความเห็นจากการใช้สมองคิดและตัดสินใจ ก็คงเป็นแบบเดียวกับที่ผมต้องหอบสังขารแก่ๆ หนีออกมาจากเวบบอร์ดชื่อดังระดับชาติ เพราะทนเหม็นขี้ฟันพวกขี้คุยไม่ไหว

สุดท้ายก็กลับมาตายรัง กลับมานั่งเขียนบล็อกแบบเดิมๆ หลังจากที่ไปหลงระเริงอยู่กับโซเชียลทั้งหลายมาพักใหญ่ ตาแก่อย่างผมทนไม่ไหวหรอกครับ กับการต้องแห่ไปตามกระแส ไม่ต้องใช้สติปัญญาอะไร แค่กดไลค์คุณก็รักชาติอะไรแบบนั้น
กลับมาเป็นตาแก่บ้านนอกปากเสียที่นั่งบ่นอยู่ในบล็อกแบบเดิมดีกว่า อยากเขียน อยากคุยอะไรก็ตามสบาย มีคนอ่านบ้าง ไม่มีคนอ่านบ้าง ก็อยู่ไปตามประสาอย่างที่เคยเป็นมา ไม่ต้องมีใครมาคอยทัก คอยท้วงว่าเขียนแรงไป เขียนตรงไปรึป่าว

การอยู่บนโซเชียลแบบที่ลมพัดไปทางไหนก็เอนไปทางนั้น
แบบที่คนส่วนใหญ่เขาเป็นกันแต่ไม่ยอมรับความจริง
แบบที่แค่เห็นพาดหัวก็เอาขึ้นมาด่ามาวิจารณ์ ทั้งที่ยังไม่เห็นเนื้อหาข้างใน
แบบที่ไล่จับผิด เหน็บแนม ประชดประชัน เสียดสี แดกดันกันทุกเรื่อง ทั้งที่ไม่เคยเจอหน้า รู้จักตัว ทุกอย่างก็แค่ได้ยินเขามา
หรือแบบที่ต้องคอยนั่งคอมเม้นท์ทุกเรื่องปานประหนึ่งเป็นเทพธิดาแสนดี พรหมวิหารสี่ทะเล็ดทะลักออกมาจากตัวอักษร จนเกินมนุษย์ธรรมดาจะเป็นได้
ถ้าจะต้องเป็นกันถึงขนาดนั้นถึงจะเรียกว่าเป็นชาวโซเชียลล่ะก็
ตาแก่บ้านนอกคนนี้ขอลาออกดีกว่า …มันอายตัวเองเกินไปจริงๆ

แสดงความเห็น