การบ้านแห่งชาติ

By | July 13, 2012

101761267

ผมได้ยินเด็กๆ บ่นเรื่องการบ้านเยอะมากมาเป็นปี แรกๆก็นึกเอาเองว่า เป็นเรื่องธรรมดาที่เด็กไม่อยากทำการบ้าน ก็เลยบ่น แต่พอมาดูกันจริงๆจังๆ มันไม่ใช่เรื่องเด็กชอบหรือไม่ชอบเสียแล้ว มันกลายเป็นอีกเรื่องหนึ่งไป เรื่องที่ผู้ใหญ่หัวหงอกอย่างพวกเราควรให้ความสนใจ

ตอนผมเป็นเด็ก ผมจะมีสมุดจดการบ้านหนึ่งเล่ม เอาไว้จดการบ้านที่ครูสั่ง จดแล้วก็เอาไปให้ครูที่สั่งเซ็นต์ชื่อในช่องของครู พอกลับบ้านก็ต้องเอาไปให้แม่เซ็นต์ชื่อในช่องผู้ปกครอง วันไหนลืมเอาสมุดนี้ไปให้แม่เซ็นต์ชื่อ ไปโรงเรียนเป็นต้องโดนฟาดก้น ถึงจะทำการบ้านมาก็ตามที

การบ้านแต่ละวิชาที่ครูให้มาก็ไม่ได้มากมายอะไรนัก เลิกเรียนแล้วมีเวลาเล่นลูกหิน ชวนเพื่อนเตะบอล แบบที่ไม่ต้องมีอารมณ์อะไรบ้าๆแบบข้อสอบนั่น พอกลับบ้านกินข้าวเย็นแล้วลงมือทำ ถ้าตั้งใจเสียหน่อยก็ใช้เวลาประมาณหนึ่งชั่วโมง ถ้าทำไปอู้ไปด้วยความขี้เกียจ จนแม่ต้องลุกมาฟาดเสียทีสองที ก็ใช้เวลาไม่เกินสองชั่วโมง เด็กสมัยก่อนจึงยังเป็นเด็กที่มีเวลาเล่นกับเพื่อน ได้ออกกำลังกาย ได้มีสังคม

แต่พอดูการบ้านของเด็กสมัยนี้ ครูแต่ละคนแข่งขันกันให้ปานจะประกวดเอาโล่รางวัลให้การบ้านดีเด่น ให้แบบไม่เคยดูว่าวิชาอื่นเขาให้มามากแค่ไหนแล้ว อาจเป็นเพราะไม่มีสมุดจดการบ้านอย่างสมัยก่อน ครูเลยไม่รู้ว่าการบ้านที่เด็กต้องทำมีมากแค่ไหนแล้ว หรือไม่ก็ไม่สนใจ วิชาฉันเป็นใหญ่ ฉันจะให้น้อยกว่าวิชาอื่นไม่ได้ กลายเป็นว่า ทั้งแบบฝึกหัด ทั้งรายงาน ทั้งงานประดิษฐ์ สารพัดที่จะนึกได้ ครูเอามาสั่งเด็กชนิดที่เด็กแทบต้องกินยาบ้าทำการบ้าน แต่ไอ้ที่เจ็บแสบมากไปกว่านั้น คือตะบี้ตะบันสั่งด้วยปาก แต่เอาส้นเท้าตรวจงานให้เด็ก ผิดถูกไม่เคยรู้ กูกาแล้วเซ็นต์ชื่อก็พอ

การบ้านบางอย่างสั่งเด็กโดยไม่เคยคำนึงเลยว่า ลูกศิษย์ของตัวมีปัญญาจะทำเองได้ไหม ผมเจอบ่อยครั้งที่พ่อแม่จูงเด็กมาที่ร้านเพื่อให้หาข้อมูลรายงาน เห็นทีไรผมรู้สึกโกรธทุกครั้ง ครูมันไม่เคยคิดเลยหรือว่า เด็กบ้านนอกหลายคนอย่าว่าแต่ที่บ้านไม่มีเน็ตเลย คอมพิวเตอร์ก็ยังไม่มี เรื่องนี้เคยคุยกับครูหลายคน ก็เอาสีข้างถูไปว่าที่โรงเรียนก็มี ในใจอยากถามจริงๆว่า ที่โรงเรียนท่านเป็นศูนย์คอมหรือไง ไอ้ร้านเกมหน้าโรงเรียนยังมีคอมพิวเตอร์ที่ทั้งสภาพและจำนวนเหนือกว่าโรงเรียนท่านตั้งเยอะ แต่เห็นแกแสบสีข้างแทบไหม้ขนาดนั้นแล้ว เลยไม่ได้บอกแกไป

การบ้านบางอย่างก็สั่งเหมือนจงใจจะให้ผู้ปกครองทำ อันนี้ไม่รู้เหมือนกันครับว่าครูโง่หรือจงใจ สั่งงานที่เด็กต้องเอาไปให้พ่อแม่ทำให้ ครูสั่งให้เอาไอ้นั่นไอ้นี่ไปโรงเรียน เด็กตัวแค่นั้นมันจะไปหามาเองได้ยังไง ก็ต้องบอกพ่อบอกแม่ให้หาให้ ลูกดันนึกได้สองทุ่มก็ต้องออกไปหาตอนสองทุ่ม นึกได้สี่ทุ่มก็ต้องออกไปหาตอนสี่ทุ่ม ครั้นจะไม่ทำให้ก็สงสารลูก สั่งมากๆเข้า พ่อแม่แทบจะโทรไปบอกครูว่า

“วันหลังมึงโทรมาสั่งกูโดยตรงเลยก็ได้ ไม่ต้องสั่งลูกกูมา”

เป้าหมายพื้นฐานของการสั่งการบ้านคือ เพื่อเพิ่มพูนทักษะ พัฒนาความรู้ความสามารถและทักษะของผู้เรียน ไม่ใช่สร้างภาระให้เด็ก ให้ผู้ปกครอง การจะสั่งการบ้านให้เด็ก ครูควรตอบตัวเองให้ได้ว่า ทำไปแล้วเด็กได้อะไร เด็กมีปัญญาทำเองได้ไหม เด็กมีปัญญาทำเสร็จไหม และสุดท้ายเด็กมีเวลาเหลือไปทำอย่างอื่น ไปเติบโต เรียนรู้อย่างอื่น นอกจากวิชาที่ตัวเองสอนไหม

คนขนาดเป็นครูคนได้ เรื่องอย่างนี้ไม่ต้องเอาหัวสมองคิดหรอกครับ เอาแค่หัวริดสีดวงก็น่าจะคิดออกได้แล้ว

 

105121017

แสดงความเห็น