สัปดาห์ที่ผ่านมานี้ มีความเปลี่ยนแปลงอะไรต่ออะไรมากมาย ที่จริงแล้วโลกนี้มันก็เปลี่ยนอยู่ทุกเสี้ยววินาทีอยู่แล้ว ผมไม่ควรจะตื่นเต้นอะไร แต่ผมตื่นเต้นครับ เพราะการเปลี่ยนแปลงบางเรื่อง ผมไม่คิดว่าจะเปลี่ยนในตอนนี้ บางเรื่องก็ไม่ได้เปลี่ยนไปตามที่คิดไว้ และบางเรื่องต้องใช้คำว่า ให้ตายก็คิดไม่ถึง กันเลยทีเดียว
เรื่องแรกที่เปลี่ยนไปทั้งๆที่ไม่ได้คิดว่าจะเปลี่ยน ก็อย่างที่เห็นแล้วนะครับ ตาแก่คนนี้ลุกมาเปลี่ยน Theme ของเวบเอาดื้อๆ แล้วนอกจากเปลี่ยน Theme ของเวบนี้แล้ว ยังไปเปลี่ยนเวบทำงาน และล่าสุดเมื่อวานนี้ ก็จัดการกับเวบที่ผมใช้เก็บข้อมูลมายาวนานตั้งแต่ปี 2007 ที่ไม่เคยคิดจะเปลี่ยนหน้าตามันเลยสักครั้ง แต่คราวนี้โดนไปกับเขาเรียบร้อยไปแล้วครับ เล่นเอาเพื่อนๆ น้องๆ สงสัยว่าเกิดอะไรกับผม ถึงได้ลุกขึ้นมาขยันทำโน่นทำนี่ ไม่มีอะไรหรอกครับ แค่เริ่มไม่มีงาน และเริ่มจะไม่มีกินอีกครั้ง ก็แค่นั้นแหละครับ
มาถึงเรื่องใหญ่เลยก็แล้วกัน เรื่องระเบิดที่สี่แยกราชประสงค์นั่นแหละครับ รายละเอียดไปหาอ่านตามสื่อเอาเอง เพราะตาแก่คนนี้ไม่ใช่สื่อมวลชน เป็นแค่ตาแก่ขี้บ่น ฉะนั้นไม่มีทั้งข้อมูล ไม่มีทั้งความเห็น แต่ที่จะเล่าให้ฟังก็คือ ตอนผมเห็นโพสท์เมื่อตอนทุ่มสามนาทีบนทวิตเตอร์ ผมยังเข้าใจว่ารถติดแก๊สไฟไหม้อีกแล้ว แต่ทวีตมันเข้ามาเรื่อยๆ และเริ่มถี่ขึ้น แต่ก็มั่วมากตามประสาโซเชียลประเทศไทย คือปนกันไปหมดทั้งข้อเท็จจริง ทั้งความเห็น ไม่เฉพาะชาวบ้านหรอกครับ นักข่าวก็เป็น คนอ่านก็อ่านไปงงไป ตกลงมันยังไงกันแน่
จนเกือบสองทุ่มก็ได้ความชัดเจนว่าเป็นระเบิดแน่ๆ ตอนนั้นทั้งเฟสบุ้ค ทั้งไลน์ ทั้งทวิตเตอร์ แทบล่ม ปวงชนชาวไทยโหมแชร์ โหมรีทวิตกัน จนบางทีอยากบอกเหลือเกินว่า กูก็กดไลค์เอาไว้ กูก็ฟอลเอาไว้ เหมือนมึงนั่นแหละ บนเฟส บนทวิตเตอร์กูไม่ได้มีมึงคนเดียว จะแชร์มาทำหอกอะไรนักหนา รกหน้าจอไปหมด ข่าวเดียวกันจากแหล่งเดียวกันล้วนๆ
แต่ที่ผมทำไม่ใช่ไล่แขร์ ไล่รีทวิตข้อมูลอย่างที่เขาทำกัน ผมเปิดเครื่องมือโซเชียลทุกตัว แล้วดูว่า ลูกๆของผม ญาติพี่น้องของผม มีการโพสท์อะไร แชร์อะไร เคลื่อนไหวอะไร ในช่วง 15 นาทีที่แล้วบ้าง หลังจากตรวจเช็คแล้ว ใครที่ไม่ได้โพสท์อะไร แต่ออนไลน์อยู่ก็จะส่งข้อความไปถาม ใครที่ไม่ได้ออนไลน์ค่อยโทรไปถาม ถ้าจะถามผมว่า ทำไมไม่โทรไปถามทั้งหมดก็หมดเรื่อง จะมานั่งเช็คทำไม ก็เพราะบ้านเราคิดอย่างนั้น ทำอย่างนั้น ทุกครั้งที่เกิดวิกฤติ ระบบโทรศัพท์มันถึงล่มทุกที ในช่วงวิกฤติควรประหยัดทรัพยากรต่างๆ เอาไว้ใช้ช่วยเหลือ ก็รู้นะครับว่าโทรศัพท์คุณ คุณเสียเงิน แต่อะไรที่ช่วยกันได้ ก็ควรจะช่วยกันบ้าง อะไรใช้สมองได้ ก็ควรจะใช้สมอง ยกเว้นแต่ว่า ไม่มี
พอรู้ว่าญาติพี่น้อง และลูกๆทุกคนปลอดภัย ก็โล่งใจล่ะครับ ส่วนผมน่ะทุกคนเขารู้ว่าปลอดภัยแน่ๆ ไม่ค่อยมีปัญหาเรื่องพวกนี้หรอกครับ อันตรายของผมมักจะไปทางโดนงูกัดเสียมากกว่า (เรื่องงูกัดนี้ติดค้างกันมานาน ไม่ได้เล่าให้ฟังเสียที) แต่ถึงจะไม่ใกล้ตัวผม มันก็เปลี่ยนทั้งบรรยากาศ ทั้งความรู้สึกในบ้านเมืองเราไปจนหมด กลายเป็นความหดหู่ เศร้าหมอง หลายคนหวาดกลัว หลายคนก่นด่า หลายคนสาปแช่ง
แต่สำหรับผมแล้ว ล้อเกวียนย่อมหมุนทับรอยตีนโค ฉันใด ผลการกระทำย่อมกลับมาถึงผู้กระทำในไม่ช้า ฉันนั้น ไม่มีใครหนีพ้นแน่นอน นี่คือ สัจจะนิรันดร์
แต่เรื่องวางระเบิดกลางกรุงเทพฯ ภายใต้สถานการณ์ปฏิว้ติแบบนี้ เป็นเรื่องที่ให้ตายก็คิดไม่ถึงจริงๆครับ