เมื่อตอนเด็กๆ ไม่ค่อยจะได้ไปไหน ไม่ว่าทางใกล้หรือทางไกล ตอนนั้นก็ใฝ่ฝันเหลือเกินว่าจะได้เดินทาง อยากไปที่ต่างๆ อยากไปเที่ยว อยากไปที่ที่ไม่เคยไป เห็นสิ่งที่ไม่เคยเห็น แต่เมื่อเวลาเริ่มผ่านไป โตขึ้นมาก็พบว่าชีวิตตัวเองถูกผูกติดอยู่กับการเดินทาง ทั้งงานทั้งเรื่องส่วนตัว ล้วนแต่บีบบังคับให้ต้องเดินทางอย่างมากมายมหาศาล
ในชีวิตไม่เคยคิดเลยว่าจะต้องขับรถมากกว่า 2 ล้านกิโลเมตรใน 1 ชั่วชีวิต แต่ถ้านับกันตั้งแต่ 30 ปีที่แล้ว เข็มไมล์บนหน้าปัทม์ของรถ รวมกันแล้วมันเกินกว่า 2 ล้านไปมาก ถ้านับรวมกับที่ไม่ได้ขับเองมันจะมากมายขนาดไหน ชีวิตคนหนึ่งคนมันต้องเดินทางมากขนาดนั้นเชียวหรือ
เมื่อก่อนนี้ ตอนที่สายตายังดีอยู่ก็ชอบขับรถตอนกลางคืน เพราะรถไม่มาก และอากาศก็เย็นสบาย แต่เดี๋ยวนี้เพราะสายตาไม่ดีอย่างหนึ่ง และรำคาญพวกขี้เมาที่ขับกันพล่านถนนยามค่ำคืน รวมไปถึงบบรรดารถบรรทุกใหญ่ทั้งหลายที่เมามันเหยียบทำความเร็วกันบนท้องถนนตอนกลางคืน เลยทำให้พยายามหลีกเลี่ยงที่จะขับรถตอนกลางคืน ยกเว้นมีเหตุจำเป็นจริงๆ เท่านั้น
การเดินทางแต่ละครั้ง สองข้างทางที่ผ่านไปมีเรื่องราวมากมายให้ดู ให้คิด ให้พิจารณา บางครั้งขับไปถึงที่ห่างไกลชุมชน เห็นคนเดินอยู่ข้างทาง ก็อดสงสัยไม่ได้ว่า เขามาจากไหน จะไปที่ไหน ทำไมถึงมาเดินอยู่อย่างนี้ วันเวลาที่ผ่านไป ได้ไขเรื่องราวหลายต่อหลายเรื่องที่เคยเห็นแต่ไม่เคยเข้าใจ
แม้ช่วงหลังจะเดินทางน้อยลง ทำงานอยู่กับที่เสียเป็นส่วนใหญ่ แต่สิ่งที่เก็บเกี่ยวได้มา จากการเดินทางเกือบทั้งชีวิต ยังเป็นบทเรียน ความรู้ และแรงกระตุ้นให้ผลักดันชีวิตเดินไปข้างหน้าต่อไป ทั้งยังเป็นความทรงจำที่แอบคิดถึงเรื่องราวเก่าๆ ยามมีวันว่าง
ยังมีชีวิต เราทุกคนก็ยังคงต้องเดินทางกันต่อไป ก็แล้วแต่ว่าใครจะเก็บอะไรได้จากสองข้างทางบ้างเท่านั้นเอง